หนังสือพระราชนิพนธ์
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี



พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ.2535
ประเทศ ฟิลิปปินส์
กลับไปหน้าที่แล้ว

ขอให้เจ้าภาพจงเจริญ


     พระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๑๕ ที่ทรงบันทึกไว้เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ระหว่างวันที่ ๒๗ สิงหาคม ถึง ๒ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๓๔ เป็นการเสด็จฯ เยือนสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ครั้งแรกของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของรัฐบาลฟิลิปปินส์ และยังได้เสด็จฯ ไปทรงรับรางวัลของมูลนิธิรามอน แมกไซไซ สาขาบริการชุมชน (Public Service) ได้ทรงเล่าพระราชทานเกี่ยวกับความเป็นมาของมูลนิธิรามอน แมกไซไซไว้ในพระราชนิพนธ์ ความตอนหนึ่งว่า

     “...ประธานาธิบดีแมกไซไซได้เข้าดำรงตำแหน่งเมื่อปี ค.ศ. ๑๙๕๓ ท่านพยายามเสริมสร้างความมั่นคงและรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจ หลังจากที่ท่านประสบอุบัติเหตุทางเครื่องบิน ถึงแก่อนิจกรรมได้ ๖ สัปดาห์ จอห์น ดี. ร้อกกี้เฟลเลอร์ ได้มีจดหมายลงวันที่ ๓๐ เมษายน ๑๙๕๗ ถึงประธานาธิบดีการ์เซียว่า ทรัสตีของ Rockefeller Brothers Fund ขอก่อตั้งมูลนิธิกองทุนรามอน แมกไซไซ เพื่อให้รางวัลแก่ชาวเอเชียที่เป็นผู้นำซึ่งมีอุดมการณ์ที่จะสร้างสรรค์ประโยชน์สุขของปวงชนประดุจประธานาธิบดีแมกไซไซ (คำว่าเอเชีย หมายถึงดินแดนที่จรดญี่ปุ่นทางทิศตะวันออก ทางใต้ถึงอินโดนีเซีย ตะวันตกถึงอัฟกานิสถาน รวมดินแดนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียใต้) ...”

     เสด็จพระราชดำเนินโดยเครื่องบินพระที่นั่งออกจากกรุงเทพฯ ไปยังกรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เสด็จฯ ไปทอดพระเนตรหนังสือ ณ ร้านหนังสือ ลา โซลิดาริดาด (La Solidaridad) เจ้าของร้านชื่อนายโฮเซ่ (F. Sionil Jose) เป็นหนึ่งในผู้ที่เคยได้รับรางวัลแมกไซไซ ร้านนี้ยังเป็นสำนักพิมพ์ พิมพ์วารสารวิชาการทางประวัติศาสตร์และรัฐศาสตร์ชื่อโซลิดาริตี้ และเป็นที่นักวิชาการมักจะมาพบปะสังสรรค์กัน จากนั้น เสด็จฯ ไปยังทำเนียบมาลากันยัง ทอดพระเนตรพิพิธภัณฑ์เก็บเรื่องราวสิ่งของของประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ และมีส่วนที่เก็บทรัพย์สินของประธานาธิบดีมาร์คอส และเสวยพระกระยาหารค่ำ ประธานาธิบดี คอราซอน อาคิโน จัดถวาย ณ ทำเนียบมาลากันยัง

     วันต่อมา เสด็จฯ ไปยังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ทอดพระเนตรนิทรรศการต่างๆ อาทิ ภาพจิตรกรรมฝีมือจิตรกรฟิลิปปินส์ซึ่งได้รับอิทธิพลสกุลช่างสเปน เนื้อหาของภาพเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ของฟิลิปปินส์ในสมัยต่างๆ นิทรรศการแสดงวัฒนธรรมภาคพื้นทะเล อารยธรรมก่อนประวัติศาสตร์ เป็นต้น ต่อจากนั้น เสด็จฯ ไปยังกรมแผนที่ (National Mapping and Resource Information Authority, NAMRIA) อยู่ที่ Fort Bonifacio ซึ่งเป็นป้อมของสเปนสมัยโบราณ ดำเนินงานจัดทำแผนที่และโครงการศึกษาต่างๆ เช่น โครงการศึกษาความเสียหายที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟพินาทูโบ การทำแผนที่สำหรับวางแผนการพัฒนาป่าไม้ เป็นต้น แล้วเสด็จฯ ไปยังธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank, ADB) จากนั้น เสด็จฯ ไปยังจังหวัด Pampanga ทอดพระเนตรบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากภูเขาไฟระเบิด บริเวณหมู่บ้านที่ถูกปกคลุมด้วยโคลนปนเถ้าถ่านจากภูเขาไฟ ทอดพระเนตรภูเขาไฟที่ยังมีควันคุกรุ่นอยู่

     เสด็จฯ ไปยังสถาบันวิจัยข้าวระหว่างประเทศ (International Rice Research Institute, IRRI) ทรงฟังการบรรยายเกี่ยวกับกิจการของสถาบัน ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับ IRRI  ทรงเปิดป้ายฉลอง ๓๐ ปีแห่งความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับ IRRI จากนั้น เสด็จฯ ไปทอดพระเนตรแปลงข้าวที่เป็นโครงการศึกษาเกี่ยวกับการปลูกข้าว ๗ โครงการ อาทิ โครงการข้าวขึ้นน้ำ (deep water rice) โครงการผลิตและปรับปรุงสายพันธุ์ข้าว เป็นต้น ทอดพระเนตรนิทรรศการ ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ห้องเก็บเมล็ดพันธุ์พืช  เสด็จฯ ไปยังมหาวิทยาลัยแห่งฟิลิปปินส์ ที่เมืองลอสบายอส ทอดพระเนตรดอกดอนย่าสองพันธุ์ที่ผสมขึ้น ดอกหนึ่งตั้งชื่อตามพระนามาภิไธยสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ อีกดอกหนึ่งตั้งตามชื่อ Mrs Magsaysay ต่อจากนั้น เสด็จฯ ไปยังสถาบัน SEARCA เป็นสถาบันค้นคว้าเกี่ยวกับการพัฒนาชุมชน รับผิดชอบงานเกี่ยวกับการพัฒนาชนบท อุตสาหกรรมการเกษตร และการพัฒนาอย่างยั่งยืน   

     นอกจากนี้ ยังได้พระราชทานพระราชวโรกาสให้นายเจมส์ รัช (Dr James Rush) ขอพระราชทานสัมภาษณ์เกี่ยวกับพระราขประวัติและพระราขกรณียกิจ เพื่อการจัดทำเอกสารประวัติผู้ได้รับรางวัลแมกไซไซ ต่อมา เสด็จฯ ไปเสวยพระกระยาหารกลางวัน ณ มูลนิธิรามอนแมกไซไซ  และทรงแสดงปาฐกถาเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจประกอบสไลด์ให้แก่สมาชิกกลุ่มสตรีต่างๆ

     เสด็จฯ ไปทรงร่วมพิธีมอบกุญแจเมือง และการวางพวงมาลาที่อนุสาวรีย์ Rizal ณ  Rizal Park เสด็จฯ ไปยังสุสานเหนือ ทรงวางพวงมาลา ณ ที่ฝังศพประธานาธิบดีแมกไซไซ เสด็จฯ ไปยังศูนย์วัฒนธรรมเพื่อทรงซ้อมรับรางวัลแมกไซไซ ต่อจากนั้น เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมมหาวิทยาลัย Santo Tomas เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในฟิลิปปินส์ สังฆราชเมืองมะนิลาสร้างไว้ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ ๑๖ หรือ ๑๗ และทอดพระเนตรพิพิธภัณฑ์ศิลปะและวิทยาศาสตร์  พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา พิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์ ในช่วงบ่าย เสด็จฯ ไปยังศูนย์วัฒนธรรม เพื่อทรงรับรางวัลแมกไซไซ จากนั้น เสด็จฯ ไปทรงร่วมงานเลี้ยงของมูลนิธิรามอนแมกไซไซ และทรงดนตรี

     เสด็จฯ ไปยัง Suncruises Pier ประทับเรือพระที่นั่งไปทอดพระเนตรเกาะ Corrigidor เป็นเกาะผาหิน อยู่คุมทางเข้าอ่าวมะนิลา เคยเป็นที่ตั้งกองทหารสหรัฐระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๒ ทอดพระเนตรอุโมงค์ Malinta ซึ่งเป็นกองบัญชาการของอเมริกันแห่งหนึ่งในระหว่างสงคราม ภายในอุโมงค์มีการแสดงแสงเสียงเล่าประวัติศาสตร์ในช่วงนี้ เสด็จฯ ทอดพระเนตรนาฏศิลป์ของคณะ Bayanihan Philippine Dance Company ณ ศูนย์วัฒนธรรม และเสด็จฯ ไปทรงมอบเงินรางวัลที่ทรงได้รับจากมูลนิธิรามอน แมกไซไซให้แก่ประธานาธิบดี เพื่อใช้ในสาธารณประโยชน์ ณ ทำเนียบมาลากันยัง